ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ปี่เซียะทอง เป็นสัตว์มงคลที่สามารถปัดเป่าโชคร้าย สิ่งไม่ดี และนำโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ เมื่อเป็นดังนี้จึงมีความเชื่อกันอีกว่า หากใครเป็นเจ้าของปี่เซียะตัวไหนแล้ว ห้ามให้ผู้อื่นมาแตะตัวปี่เซียะเป็นอันขาด และไม่ให้นำปี่เซียะไปในสถานที่อวมงคลต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ปี่เซียะเสื่อมความขลังได้ และเมื่อมาถึงยุคปัจจุบันความเชื่อในด้านสายมูเตลู ก็ทำให้ปี่เซียะได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มวัยรุ่น และทุก ๆ วัย ล้วนแต่ต้องการครอบครองปี่เซียะ โดยเฉพาะถ้าเป็นปี่เซียะจากฮ่องกง ที่ผ่านการปลุกเสกมาแล้วก็จะยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว โดยมีราคาในการซื้อหาเป็นหลักพันขึ้นไป
วิธีดูแล ปี่เซียะทอง
ใครที่ได้รับปี่เซียะมาบูชา เริ่มต้นจะต้องนำปี่เซียะไปแช่ในน้ำร้อน และน้ำเย็นในปริมาณที่เท่า ๆ กัน เพื่อเป็นการปรับสภาพให้ปี่เซียะเกิดความสมดุลของหยิน และหยาง ที่สำคัญและอาจจะฟังดูเป็นเรื่องน่าขันคือ เจ้าของจะต้องมองหน้าปี่เซียะเพื่อให้จำหน้าได้ และต้องมีการพูดคุยกันเป็นประจำทุกวัน เพราะปี่เซียะจะรับรู้การเป็นเจ้าของของเราได้ และให้โชคลาภ พร้อมให้ความคุ้มครองไม่ให้เกิดความชั่วร้ายมาแผ้วพานได้ ที่สำคัญห้ามใครมาแตะต้องตัวปี่เซียะของเราอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเขาเกิดมาเพื่อมีเจ้าของ คือเราคนเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็จะคลายความขลัง จนกลายเป็นเครื่องประดับแฟชั่นไปในที่สุด ความเชื่อนี้ ส่งผลต่อจิตใจของผู้เป็นเจ้าของ จึงต้องรักและดูแลปี่เซียะเปรียบเสมือนลูก ต้องมีการให้ขนม น้ำ ผลไม้ โดยเปลี่ยนภาชนะที่ใส่น้ำทุกวัน ล้างให้สะอาด นอกจากนี้ยังมีคาถาบูชาปี่เซียะ ซึ่งต้องท่องทุกวัน เป็นคาถาบูชาความเป็นเศรษฐี ศักดิ์สิทธิ์และให้คุณแก่ผู้เป็นเจ้าของ
ถ้าเป็นปี่เซียะที่เป็นแฟชั่น มักจะทำมาในรูปแบบของกำไลข้อมือ ซึ่งมีเคล็ดในการสวมปี่เซียะ ทอง ถ้าสวมใส่ในข้อมือซ้าย จะช่วยในเรื่องค้าขาย มีทั้งโชคลาภและความร่ำรวย จัดว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ถ้าสวมใส่ในข้อมือขวา จะช่วยในเรื่องหน้าที่การงาน เสริมอำนาจบารมี หากเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็จะได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนโดยทั่วไป ดังนี้แล้ว เมื่อได้รับปี่เซียะมา ไม่ควรปล่อยวางทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจดูแล เพราะปี่เซียะจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
อ่านเพิ่มเติม: ปี่เซียะ คืออะไร มีความหมายในทางโหราศาสตร์จีนอย่างไร
